|
|
|||||||||||||
1. |
ผู้เข้ารับการอบรม หมายถึง
บุคลกรของรัฐ หรือ บุคคลซึ่งมิใช่บุคลากรของรัฐที่เข้ารับตามโครงการหรือหลักสูตรการ |
|
||||||||||||
2 |
การฝึกอบรมไว้ 3 ระดับ ดังนี้ 2.1 การฝึกอบรมระดับต้น
หมายความว่า การฝึกอบรมที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเกินกึ่งหนึ่งเป็นบุคลากรของรัฐ
ซึ่งเป็นข้าราชการระดับ 1- 2 หรือมีระดับตำแหน่งเทียบเท่าข้าราชการระดับ 1 - 2 2.2 การฝึกอบรมระดับกลาง หมายความว่า
การฝึกอบรมที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเกินกึ่งหนึ่งเป็นบุคลากรของรัฐซึ่งข้าราชการตั้งแต่ระดับ 3 8 หรือมีระดับตำแหน่งเทียบเท่าข้าราชการระดับ 3 - 8 2.3 การฝึกอบรมระดับสูง
หมายความว่า การฝึกอบรมที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเกินกึ่งหนึ่งเป็นบุคลากรของรัฐ
ซึ่งเป็นข้าราชการตั้งแต่ระดับ 9 ขึ้นไป
หรือมีระดับตำแหน่งเทียบเท่าข้าราชการตั้งแต่ระดับ 9 ขึ้นไป |
|
||||||||||||
3. |
บุคคลที่จะเบิกค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม
3.1 ประธานในพิธีเปิดหรือปิดการฝึกอบรม
แขกผู้มีเกียรติ และผู้ติดตาม 3.2 เจ้าหน้าที่ (บุคลากรของรัฐ ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานตามระเบียบนี้
รวมถึงบุคคลอื่นที่ได้รับ
แต่งตั้งให้ปฏิบัติงาน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย) 3.3 วิทยากร 3.4 ผู้เข้ารับการฝึกอบรม 3.5 ผู้สังเกตการณ์ |
|
||||||||||||
4. |
การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมในประเทศ
พิจารณาได้เป็น 2 กรณี 4.1 เป็นหน่วยงานผู้จัดฝึกอบรม 4.2
เป็นผู้ส่งบุคลากรเข้ารับการฝึกอบรม |
|
||||||||||||
|
4.1 กรณีเป็นหน่วยงานผู้จัดฝึกอบรม 4.1.1
โครงการ/หลักสูตรการฝึกอบรม ต้องได้รับอนุมัติจากหัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณ 4.1.2 ค่าใช้จ่ายในการจัดฝึกอบรม
ให้ส่วนราชการผู้จัดฝึกอบรมใช้ดุลพินิจเบิกค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม |
|
||||||||||||
|
ได้เท่าที่จ่ายจริง โดยคำนึงถึงความจำเป็น เหมาะสม
และประหยัด เพื่อประโยชน์ของทางราชการ
ยกเว้น
ค่าสมนาคุณวิทยากร ค่าอาหาร ค่าเช่าที่พัก และค่าพาหนะ ให้เบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์ และอัตราตามที่กำหนดไว้ในระเบียบดังนี้ |
|
||||||||||||
|
Ø ค่าสมนาคุณวิทยากร ก. หลักเกณฑ์การจ่าย 1) ชั่วโมงการฝึกอบรบที่มีลักษณะเป็นการบรรยาย
ให้จ่ายไม่เกิน 1 คน 2) ชั่วโมงการฝึกอบรบที่มีลักษณะเป็นการอภิปรายเป็นคณะ
หรือสัมมนาจ่ายได้ไม่เกิน 5 คน 3) ชั่วโมงการฝึกอบรบที่มีลักษณะเป็นการแบ่งกลุ่มฝึกภาคปฏิบัติ แบ่งกลุ่มอภิปรายหรือแบ่งกลุ่มทำกิจกรรม
จ่ายไม่เกินกลุ่มละ 2 คน 4) ชั่วโมงการฝึกอบรมใดมีวิทยากรเกินกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ข้างต้นให้เฉลี่ยจ่าย
ค่าสมนาคุณภายในจำนวนเงินที่จ่ายได้ตามหลักเกณฑ์ 5) ชั่วโมงการฝึกอบรมต้องมีกำหนดเวลาการฝึกอบรมไม่น้อยกว่าห้าสิบนาที ***กรณีกำหนดเวลาการฝึกอบรมไม่ถึงห้าสิบนาที
แต่ไม่น้อยกว่ายี่สิบห้านาทีให้เบิกจ่ายค่าสมนาคุณวิทยากรได้กึ่งหนึ่ง |
|
||||||||||||
ข. อัตราค่าสมนาคุณวิทยากร |
|
|||||||||||||
|
ระดับการอบรม |
วิทยากรเป็นบุคลากรของรัฐ |
วิทยากรที่มิใช่บุคลากรของรัฐ |
|
|
|||||||||
ระดับต้น/กลาง/บุคคลภายนอก |
ไม่เกิน ชม.ละ 600 บาท |
ไม่เกิน ชม.ละ 1,200 บาท |
|
|||||||||||
ระดับ สูง |
ไม่เกิน ชม.ละ 800 บาท |
ไม่เกิน ชม.ละ 1,600 บาท |
|
|||||||||||
หมายเหตุ
(1) การจ่ายค่าสมนาคุณวิทยากรที่สังกัดส่วนราชการผู้จัดฯ
ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าส่วนราชการที่จะจ่ายได้ตามความจำเป็นที่เหมาะสม
แต่ต้องไม่เกินอัตราค่าวิทยากรที่เป็นบุคลากรภาครัฐ (2)
กรณีจำเป็นต้องจ่ายค่าวิทยากรสูงกว่าอัตราที่กำหนด
เพราะวิทยากรมีความรู้ความสามารถและประสบการณ์เป็นพิเศษ
ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณ |
|
|||||||||||||
Ø ค่าอาหาร |
|
|||||||||||||
อัตราค่าอาหารในการฝึกอบรม
(บาท/วัน/คน) |
|
|||||||||||||
|
ระดับ |
จัดในสถานที่ราชการ |
จัดในสถานที่เอกชน |
จัดในสถานที่เอกชนของต่างประเทศ |
|
|||||||||
ระดับต้น/กลาง/บุคคลภายนอก |
ครบทุกมื้อ 500 ไม่ครบทุกมื้อ
300 |
ครบทุกมื้อ 800 ไม่ครบทุกมื้อ
600 |
ไม่เกิน 2,500 |
|
||||||||||
ระดับสูง |
ครบทุกมื้อ 700 ไม่ครบทุกมื้อ
500 |
ครบทุกมื้อ
1,100 ไม่ครบทุกมื้อ
700 |
ไม่เกิน 2,500 |
|
||||||||||
หมายเหตุ
ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มในระเบียบนี้ไม่ได้กำหนดอัตราไว้ |
|
|||||||||||||
Ø ค่าที่พัก |
||||||||||||||
|
อัตราค่าที่พักในประเทศ |
|
||||||||||||
|
ระดับการฝึกอบรม |
ค่าเช่าห้องพักคนเดี่ยว |
ค่าเช่าห้องพักคู่ |
|
||||||||||
ระดับต้น/กลาง/บุคคลภายนอก |
ไม่เกิน 1,200
บาท/วัน/คน |
ไม่เกิน
750 บาท/วัน/คน |
|
|||||||||||
ระดับสูง |
ไม่เกิน 2,000
บาท/วัน/คน |
ไม่เกิน
1,100 บาท/วัน/คน |
|
|||||||||||
หมายเหตุ
กรณีผู้จัดไม่ได้จัดที่พักให้บุคคลภายนอก ให้เบิกจ่ายลักษณะเหมาจ่าย ไม่เกินคนละ
500 บาทต่อวัน |
|
|||||||||||||
อัตราค่าเช่าที่พักในการฝึกอบรมในต่างประเทศ
(บาท/วัน/คน) |
|
|||||||||||||
ระดับการฝึกอบรม |
ประเภท ก. |
ประเภท ข. |
ประเภท ค. |
|
||||||||||
ค่าเช่าห้อง พักคนเดียว |
ค่าเช่า ห้องพักคู่ |
ค่าเช่าห้องพัก คนเดียว |
ค่าเช่า ห้องพักคู่ |
ค่าเช่าห้อง พักคนเดียว |
ค่าเช่า ห้องพักคู่ |
|
||||||||
ระดับต้น/กลาง/บุคคลภายนอก |
ไม่เกิน 6,000 |
ไม่เกิน 4,200 |
ไม่เกิน 4,000 |
ไม่เกิน 2,800 |
ไม่เกิน 2,400 |
ไม่เกิน 1,700 |
|
|||||||
ระดับสูง |
ไม่เกิน 8,000 |
ไม่เกิน 5,600 |
ไม่เกิน 5,600 |
ไม่เกิน 3,900 |
ไม่เกิน 3,600 |
ไม่เกิน 2,500 |
|
|||||||
หมายเหตุ ประเภท ก.
ประเภท ข. ประเภท ค.
หมายถึง ประเทศ รัฐ เมือง
ตามบัญชีแนบท้ายระเบียบฯ |
||||||||||||||
|
Ø
ค่าพาหนะ
กรณีส่วนราชการผู้จัดฝึกอบรมจัดยานพาหนะในการฝึกอบรม
และออกค่าพาหนะให้บุคคลตามข้อ 11 ของระเบียบฯ
การเบิกจ่ายให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้ 1) กรณีใช้ยานพาหนะของส่วนราชการผู้จัด
หรือกรณียืมยานพาหนะจากส่วนราชการอื่น ให้เบิกค่า น้ำมันเชื้อเพลิงได้เท่าที่จ่ายจริง 2) กรณีใช้ยานพาหนะประจำทางหรือเช่าเหมายานพาหนะ
ให้จัดยานพาหนะโดยอนุโลมตามสิทธิของข้าราชการ
ตามพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
โดยให้เบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นและประหยัด ดังนี้ (ก) การฝึกอบรมระดับต้นหรือการฝึกอบรมบุคคลภายนอกให้จัดยานพาหนะตามสิทธิของข้าราชการระดับ 5 หรือเทียบเท่า
สำหรับการฝึกอบรมระดับกลางให้จัดยานพาหนะตามสิทธิของข้าราชการระดับ 6 หรือเทียบเท่า (ข) การฝึกอบรมระดับสูง
ให้จัดยานพาหนะตามสิทธิของข้าราชการระดับ 10 หรือเทียบเท่า
เว้นแต่กรณีเดินทางโดยเครื่องบินให้ใช้ชั้นธุรกิจ
กรณีที่ไม่สามารถเดินทางโดยชั้นธุรกิจให้เดินทางโดยชั้นหนึ่ง |
|||||||||||||
|
กรณีส่วนราชการผู้จัดฝึกอบรมไม่จัดอาหาร
ที่พักหรือยานพาหนะทั้งหมดหรือจัดให้บางส่วน ให้ส่วนราชการผู้จัดฝึกอบรมเบิกค่าใช้จ่ายทั้งหมดหรือส่วนที่ขาดให้แก่บุคคลตามระเบียบฯ
ข้อ 11 แต่ถ้าบุคคลตามระเบียบฯ
ข้อ 11 (4) และ (5) เป็นบุคคลของรัฐให้เบิกจ่ายจากต้นสังกัด
ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ เว้นแต่
การคำนวณเวลาเพื่อเบิก เบี้ยเลี้ยงเดินทางให้นับตั้งแต่เวลาที่เดินทางออกจากสถานที่อยู่หรือสถานที่ปฏิบัติราชการตามปกติ
จนกลับถึงสถานที่อยู่หรือสถานที่ปฏิบัติราชการตามปกติแล้วแต่กรณี
แล้วนำจำนวนวันทั้งหมดมา คูณ กับอัตราเบี้ยเลี้ยงเดินทางเหมาจ่ายต่อวัน
เพื่อเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทาง ในกรณีที่ผู้จัดการฝึกอบรมจัดอาหารบางมื้อในระหว่างการฝึกอบรม
ให้หักเบี้ยเลี้ยงเดินทางที่คำนวณได้ในอัตรามื้อละ 1 ใน 3 ของอัตราเบี้ยเลี้ยงเดินทางเหมาจ่ายต่อวัน กรณีเป็นการจัดฝึกอบรมบุคคลภายนอก ให้ส่วนราชการผู้จัดการฝึกอบรมเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมดหรือส่วนที่ขาดให้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่
มิได้เป็นบุคลากรของรัฐตามหลักเกณฑ์ ดังนี้ 1) ค่าเบี้ยเลี้ยง ก. การฝึกอบรมที่ไม่จัดอาหารทั้ง 3 มื้อ
ให้เบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงได้ไม่เกินคนละ 120 บาทต่อวัน ข. การฝึกอบรมที่จัดอาหารให้ 2 มื้อ
ให้เบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงได้ไม่เกินคนละ 40 บาทต่อวัน ค. การฝึกอบรมที่จัดอาหารให้ 1 มื้อ
ให้เบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงได้ไม่เกินคนละ 80 บาทต่อวัน 2) ค่าเช่าที่พัก ให้เบิกเหมาจ่ายไม่เกินคนละ 500 บาท ต่อวัน 3) ค่าพาหนะเดินทาง ยกเว้น
ค่าโดยสารเครื่องบิน
ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าส่วนราชการผู้จัดการฝึกอบรมที่จะพิจารณาให้เบิกจ่ายตามที่จ่ายจริง
หรือตามความจำเป็นและเหมาะสม |
|||||||||||||
|
4.2
กรณีเป็นผู้ส่งบุคลากรเข้ารับการฝึกอบรม การเบิกค่าใช้จ่ายของผู้เข้ารับการฝึกอบรมและผู้สังเกตการณ์ (1) ค่าลงทะเบียน ค่าธรรมเนียม ให้เบิกจ่ายเท่าที่จ่ายจริงในอัตราที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานผู้จัดการฝึกอบรมเรียกเก็บ (2) กรณีหน่วยงานผู้จัดฝึกอบรมได้รวมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าอาหาร
ค่าที่พัก และค่าพาหนะไว้ในค่าลงทะเบียน ค่าธรรมเนียม
หรือส่วนราชการผู้จัดการฝึกอบรมได้ออกค่าอาหาร ค่าเช่าที่พัก
หรือค่าพาหนะทั้งหมด
ให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมและผู้สังเกตการณ์งดเบิกค่าใช้จ่ายดังกล่าว (3) กรณีหน่วยงานผู้จัดฝึกอบรมไม่รวมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าอาหาร
ค่าที่พัก และค่าพาหนะไว้ในค่าลงทะเบียน ค่าธรรมเนียม หรือรวมไว้บางส่วน
ให้เบิกค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมเฉพาะส่วนที่หน่วยงานมิได้ออกให้
โดยอนุโลมตามพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
เว้นแต่การคำนวณเวลาเพื่อเบิก
|
|||||||||||||
|
เบี้ยเลี้ยงเดินทางให้นับตั้งแต่เวลาที่เดินทางออกจากสถานที่อยู่หรือสถานที่ปฏิบัติราชการตามปกติ
จน กลับถึงสถานที่อยู่หรือสถานที่ปฏิบัติราชการตามปกติ
แล้วแต่กรณีแล้วนำจำนวนวันทั้งหมดมาคูณกับอัตราเบี้ยเลี้ยงเดินทางเหมาจ่ายต่อวัน
เพื่อเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทาง (4)
ในกรณีที่ผู้จัดการฝึกอบรมจัดอาหารบางมื้อในระหว่างการฝึกอบรม
ให้หักเบี้ยเลี้ยงเดินทางที่คำนวณได้ในอัตรามื้อละ 1 ใน 3 ของอัตราเบี้ยเลี้ยงเดินทางเหมาจ่ายต่อวัน การคำนวณวัน ให้นับ 24 ชั่วโมงเป็น 1 วัน ถ้าไม่ถึง 24 ชั่วโมง และส่วนที่ไม่ถึง 24 ชั่วโมงนั้นมากกว่า 12 ชั่วโมงให้ถือเป็น 1 วัน |
|||||||||||||
5. |
การเดินทางไปต่างประเทศ และมีสิทธิเบิกค่าเครื่องแต่งตัว
ให้เหมาจ่ายได้ดังนี้ ระดับ 5 ลงมา เหมาจ่าย 7,500 บาท/คน ระดับ 6 ขึ้นไป เหมาจ่าย 9,000 บาท/คน (ยกเว้น 14 ประเทศ
ที่ไม่สามารถเบิกจ่ายค่าเครื่องแต่งตัวได้ ) |
|||||||||||||
6. |
ส่วนราชการสามารถจ้างจัดฝึกอบรมในโครงการทั้งหมด หรือบางส่วนได้
ตามหลักเกณฑ์และค่าใช้จ่ายตามระเบียบนี้ |
|||||||||||||
7. |
การเบิกค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน
และการจัดประชุมระหว่างประเทศ นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้หรือที่กำหนดไว้แล้วแต่ไม่สามารถปฏิบัติได้ตามระเบียบนี้
ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณ |
|||||||||||||
1. |
การจัดงานตามแผนงานโครงการตามภารกิจปกติหรือตามนโยบายของทางราชการ
เช่น การจัดงานวันคล้ายวันสถาปนาของส่วนราชการ การจัดงานนิทรรศการ การจัดงานแถลงข่าว
การจัดประกวดหรือแข่งขัน หรือการจัดกิจกรรมต่างๆ เป็นต้น
ให้หัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณพิจารณาอนุมัติการเบิกค่าใช้จ่ายได้เท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น
เหมาะสม และประหยัด |
2. |
ส่วนราชการสามารถหาผู้รับจ้างให้มาดำเนินการจัดงานได้ โดยอยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณ
โดยให้ใช้ใบเสร็จรับเงินของผู้รับจ้างในการจัดงานเป็นหลักฐานในการเบิกจ่าย |
1. |
บุคคลที่จะเบิกค่าใช้จ่ายในการประชุมระหว่างประเทศ
1.1 ประธานในพิธีเปิดหรือปิดการฝึกอบรม
แขกผู้มีเกียรติ และผู้ติดตาม 1.2 เจ้าหน้าที่ 1.3 เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานลักษณะพิเศษ** 1.4 วิทยากร 1.5 ผู้เข้าร่วมประชุม ** หมายถึง บุคคลซึ่งมิได้เป็นบุคลากรของรัฐและได้รับแต่งตั้งจากหัวหน้าส่วนราชการผู้จัดการประชุมระหว่างประเทศให้ปฏิบัติงานในการประชุมระหว่างประเทศ เช่น
พนักงานพิมพ์ดีด พนักงานบันทึกข้อมูล พนักงานแปล
ล่ามและผู้จดบันทึกสรุปประเด็นในการประชุมระหว่างประเทศ เป็นต้น |
|
2. |
ไม่ระบุประเภทค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมระหว่างประเทศว่าได้แก่อะไรบ้าง
กำหนดแต่เพียงว่า ค่าใช้จ่ายก่อน
ระหว่าง และหลังการจัดประชุมระหว่างประเทศ ให้เบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริง
ตามความจำเป็น เหมาะสม และประหยัด เพื่อประโยชน์ของส่วนราชการ ยกเว้น ค่าสมนาคุณวิทยากร
เงินรางวัลของเจ้าหน้าที่ ค่าอาหาร
ค่าเช่าที่พัก และค่าพาหนะ
ให้เบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้ |
|
3. |
การประชุมระหว่างประเทศที่กำหนดผู้เข้าร่วมประชุมเป็นบุคคลระดับรัฐมนตรีหรือสมาชิกรัฐสภาขึ้นไปให้เบิกจ่ายค่าอาหาร ค่าเช่าที่พัก หรือค่าพาหนะ
ได้เท่าที่จ่ายจริง โดยให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณ |
|
4. |
การประชุมระหว่างประเทศนอกเหนือจากข้อ
3 ให้เบิกจ่ายค่าอาหาร
ค่าเช่าที่พัก หรือค่าพาหนะได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกินอัตราดังนี้ |
|
|
4.1 |
อาหารและเครื่องดื่ม (1) ครบทุกมื้อ ไม่เกิน 1,200 บาท/วัน/คน (2) ไม่ครบทุกมื้อ ไม่เกิน
800 บาท/วัน/คน (ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มในระเบียบนี้ไม่ได้กำหนดอัตราไว้) |
|
4.2 |
ค่าที่พัก ไม่เกิน 2,000 บาท/วัน/คน |
|
4.3 |
ค่าพาหนะให้เบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นและเหมาะสม
โดยให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณ |
5. |
ค่าสมนาคุณวิทยากรให้เบิกตามหลักเกณฑ์ข้อ 16 ของระเบียบนี้
แต่ไม่ได้กำหนดอัตราการจ่ายไว้เพียงแต่ให้เบิกจ่ายตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณ
|
|
6. |
เจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานในการประชุมระหว่างประเทศให้ได้รับเงินรางวัลเฉพาะวันที่ปฏิบัติงานคนละไม่เกิน
200 บาท/วัน |
|
7. |
เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานลักษณะพิเศษ
ให้เบิกจ่ายค่าตอบแทนเฉพาะวันที่ปฏิบัติงานตามหลักเกณฑ์และอัตราที่หัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณกำหนด |
|
8. |
ค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าลงทะเบียน
ค่าธรรมเนียม
หรือค่าใช้จ่ายทำนองเดียวกันที่เรียกชื่ออย่างอื่นสำหรับผู้เข้าร่วมประชุม
ให้เบิกจ่ายเท่าที่จ่ายจริงในอัตราไม่ที่ผู้จัดการประชุมระหว่างประเทศเรียกเก็บ |
|
9 |
ส่วนราชการสามารถจ้างจัดประชุมระหว่างประเทศได้
โดยให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าส่วนเจ้าของงบประมาณ |
|
|
------------------------------------------------------------------------ |
สรุปโดย หน่วยตรวจสอบภายใน สป. 9 พฤศจิกายน 2550